Monday, January 19, 2015

ลองอ่านสักนิด ชีวิตก็เปลี่ยน

แฮร์รี่พอตเตอร์ วรรณกรรมเยาวชนที่เสกมนต์ให้วัยเด็กของผมนั้นสดใสมากขึ้น และเปลี่ยนชีวิตที่น่าเบื่อของผมไปตลอดกาล !

สวัสดีผู้อ่าน Blog ทุกท่านนะครับ ผมไม่ได้เขียน Blog เป็นเวลานานมากเลย กลับมาคราวนี้เลยจะนำหนังสือที่เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่ผมชื่อชอบมากที่สุดมาฝากผู้อ่าน Blog ทุกท่านนะครับ โดยเลือกจากหนังสือที่ผมชอบอ่านมากที่สุดเลยนั่นก็คือ แฮร์รี่พอตเตอร์ นั่นเองครับ

รูปภาพ : http://pirun.ku.ac.th/~b521130159/1250911366.jpg

จากการที่ผมเป็นเด็กที่ไม่ชอบการอ่านหนังสือเลย ไม่ว่าจะเป็นบทความสั้นๆหรืออะไรก็ตามที่ต้องใช้การอ่านเพื่อทำความเข้าใจ ผมไม่มีความคิดที่จะอ่านเลย จนได้มารู้จักหนังสือเล่มนี้ เป็นเรื่องราวลึกลับของการใช้เวทย์มนต์ ที่มีความหลากหลาย ไม่ว่จะเป็น กระทรวงเวทย์มนต์ ที่ชวนให้คิดว่าถ้าเรื่องเหล่านี้มีอยู่จริงบนโลกนี้ละ ทั้งยัง ลอร์ดโวลเดอมอร์ ที่สามารถตายแล้วเกิดใหม่ได้อีก อาจจะเหมือนมัมมี่ที่อียิปต์ ทั้งยังการใช้คำสาปต่างๆ ที่ได้สอดแทรกความรู้ในภาษาอังกฤษโดยนำมาเป็นชื่อคาถาให้ได้ค้นหาความหมายกันอีก และเนื้อเรื่องที่เริ่มจากเด็กผู้ชายธรรมดาๆที่เป็นเด็กกำพร้า แม้เขาจะอาศัยอยู่ในก้องเก็บของใต้บันใดของบ้าน แต่โดยนิสัยแล้ว แฮร์รี่ไม่ต่างอะไรกับเด็กคนอื่นๆเลย และแล้ววันหนึ่ง แฮร์รี่ก็เริ่มได้รับจดหมายประหลาด มาพร้อมกับยักษ์ตัวใหญ่เคราดกถือร่มสีชมพูเพื่อมาประกาศว่า แฮร์รี่นั้นได้กลายเป็นนักเรียนใหม่ในโรงเรียนคาถาพ่อมดและเวทย์มนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ นับจากวินาทีนั้นเรื่องราวก็น่าติดตามขึ้นเรื่อยๆ จึงไม่เป็นที่แปลกใจเลยที่เมื่อผมได้เปิดอ่านหน้าแรกแล้วรู้สึกอยากอ่านต่อในหน้าถัดๆไป ไม่อยากให้จบเล่มเลย ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องที่ทำให้ผมต้องไปซื้อหนังสือแฮร์รี่ ภาค 2 และภาคต่อๆไปมาอ่าน 

หากย้อนไป ณ เวลานั้น ผมยังเรียนอยู่ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 2 จำได้แม่นเลยว่า ไปต่อแถวซื้อหนังสือแฮร์รี่พอตเตอร์ ภาค ภาคีนกฟินิกซ์ เพื่อที่จะได้ซื้อหนังสือที่ตีพิมพ์ครั้งที่ 1 เป็นแรกๆของจังหวัดแพร่ ในตอนนั้นคนที่อยากอ่านหนังสือแฮร์รี่พอตเตอร์กับภาคนกฟินิกซ์มีจำนวนเยอะมากๆ จนล้นออกไปรอนอกร้านหนังสือ ร้านหนังสือที่ผมไปต่อคิวซื้อนั้นได้โควต้าการจำหน่ายวันแรกเพียง 100 เล่มเท่านั้น ในตอนแรกผมนึกว่าจะไม่ได้หนังสือเล่มนี้มาครองเสียแล้ว แต่กลับกัน ผมกับได้สิทธิ์ในการซื้อเป็นคนที่ 11 ของร้าน เนื่องจากไปยืนรอหน้าร้านตั้งแต่ 7 โมงเช้า ถ้าพูดถึงชีวิตที่สำคัญของเด็กชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 คนนึง นั่นแหละครับเป็นช่วงเวลาที่มีค่าช่วงเวลาหนึ่งของผมเลยละ

นอกจากหนังสือแฮร์รี่พอตเตอร์จะให้ความเพลินเพลินสนุกสนานในการอ่านแล้ว หนังสือนวนิยายเล่มนี้ยังฝึกฝนการมีจินตนาการของเด็กๆเป็นอย่างมากอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ไม้กวาดวิเศษที่บินได้ ม้ามีปีก การเคลื่อนย้ายบ้านทั้งหลังโดยการร่ายเวทย์มนต์เพียงแปปเดียวเท่านั้น สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ชวนให้ผู้อ่านหลงไหลไปกับเนื้อเรื่อง ทั้งยังคอยจินตนาการตามถึงภาพต่างๆที่เกิดขึ้นว่าควรจะเป็นไปอย่างไร เพราะสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ไม่มีอยู่ในชีวิตจริงและเป็นสิ่งที่ไม่มีใครเคยพบเห็นหรือพบเจอมาก่อนเป็นอย่างแน่นอน

หนังสือแฮร์รี่พอตเตอร์ มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 7 ภาค 7 ผู้แต่งคือ เจ.เค โรลลิ่ง 

 
เล่มที่ 1 แฮร์รี่พอตเตอร์กับศิลาอาถารรถ์

เล่มที่ 2 แฮร์รี่พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ

เล่มที่ 3 แฮร์รี่พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน

เล่มที่ 4 แฮร์รี่พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี

เล่มที่ 5 แฮร์รี่พอตเตอร์กับภาคีนกฟินิกซ์

เล่มที่ 6 แฮร์รี่พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม

เล่มที่ 7 แฮร์รี่พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต

ถ้าพูดถึงเล่มโปรดของผมละก็ต้องเป็น แฮร์พอตเตอร์กับภาคีนกฟีนิกซ์ ที่นอกจากจะนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจ ให้ความเพลิดเพลิน และจินตนาการแล้ว ในภาคนี้ยังให้แฝงแง่คิดในเรื่องของบุคคล เป็นเรื่องราวที่แฮร์รี่นั่นต้องสูญเสียพ่อทูนหัวที่เปรียบเสมือนญาตของเขาไป จากฝีมือของ เบลาทริก เลสแตรง ที่พึ่งแหกคุกอัซคาบันออกมา และยังเป็นคนๆเดียวกันกับคนที่ทรมารพ่อแม่ของเนวิล ลองบัททอม เพื่อนของแฮร์รี่อีกด้วย โดยจากการเขียนเล่าเรื่องของเหตุการณ์นี้ เป็นการเขียนที่ทำให้ผู้อ่านอย่างผม รู้สึกเสียใจไปพร้อมๆกับแฮร์รี่อีกด้วย ทั้งยังให้แง่คิดเกี่ยวกับคนที่เรารักว่าถ้าสักวันนึงเราต้องเสียเขาไป คงเจ็บปวดใจไปไม่น้อยกว่าแฮร์รี่ ทำให้ผมกลับมามองคนรอบข้าง และปฏิบัติต่อเขาดียิ่งขึ้น

สุดท้ายนี้ ผมอยากให้ผู้ที่ได้อ่าน Blog ของผมทุกท่านลองไปค้นหาหนังสือเหล่านี้อ่านดู ผมเชื่อแน่ๆว่าหนังสือแฮร์รี่พอตเตอร์ทั้ง 7 ภาคนี้ จะต้องทำให้ทุกๆคนหลงรักตัวละครในหนังสือนี้เป็นอย่างแน่นอนครับ 

ธนวิชญ์